ดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์: กู้เงินแบบใช้หลักประกัน สินเชื่อแบงก์ไหนดอกเบี้ยถูกเมื่อเกิดปัญหาการเงิน และมีความจำเป็นต้องกู้เงินหรือขอสินเชื่อมาหมุนเวียนจัดการปัญหานั้น หลายคนเลือกที่จะนำทรัพย์สินที่มีอยู่มาเป็นหลักประกันเพื่อขอสินเชื่อ เพราะได้วงเงินที่สูงกว่า และอนุมติง่ายกว่าขอสินเชื่อแบบไม่มีหลักประกัน ดู เรื่องต้องรู้ก่อนกู้เงิน และ 5 หลักประกันสุดฮิต ที่คนมักนำมาใช้ค้ำประกันสินเชื่อ และการเตรียมตัวก่อนเป็นผู้ค้ำประกัน ไปทำความรู้จักสินเชื่อ 2 แบบนี้ให้มากขึ้นกันค่ะ นอกจากจะต้องเปรียบเทียบว่าสินเชื่อแบงก์ไหนดอกเบี้ยถูกแล้ว ไปดูกันว่าเราสามารถนำทรัพย์สินอะไรบ้างมาใช้เป็นหลักประกันได้บ้าง
สินเชื่อไม่มีหลักประกัน
คือ สินเชื่ออเนกประสงค์ทั่วไป เช่น สินเชื่อหมุนเวียนส่วนบุคคล, บัตรกดเงินสด, บัตรเครดิต เนื่องจากเป็นสินเชื่อที่ไม่มีหลักประกัน จึงถือว่าเป็นสินเชื่อที่มีความเสี่ยงสูงสำหรับธนาคาร อัตราดอกเบี้ยจึงจะค่อนข้างสูง ประมาณ 20 - 25% ต่อปี
สินเชื่อที่มีหลักประกัน
เป็นสินเชื่อที่มีความเสี่ยงต่ำกว่า เนื่องจากผู้ขอสินเชื่อต้องมีหลักประกันให้แก่สถาบันการเงิน และหลักประกันจะเป็นปัจจัยที่ใช้ประกอบการอนุมัติสินเชื่อด้วย แบ่งออกเป็น 2 กรณี คือ
ใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน หากผู้ขอสินเชื่อไม่สามารถชำระหนี้ได้ สถาบันการเงินสามารถได้รับเงินคืนจากการยึดหลักประกันมาขายทอดตลาดเพื่อชำระหนี้ หรือให้ผู้ที่ค้ำประกันชำระหนี้แทน ส่วนหลักทรัพย์ที่นิยมใช้เป็นหลักประกัน เช่น เงินฝาก พันธบัตรรัฐบาล ตั๋วเงิน หุ้นกู้ และอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ
ใช้บุคคลค้ำประกัน สถาบันการเงินก็จะพิจารณาความสามารถในการชำระหนี้ของผู้ค้ำประกันประกอบการอนุมัติสินเชื่อด้วย
หลักทรัพย์ค้ำประกัน มีอะไรบ้าง
1. ที่ดินเปล่า ที่ยังไม่มีการนำไปทำประโยชน์
2. ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง
3. ที่พักอาศัย อย่างบ้านหรือคอนโดที่อยู่ในปัจจุบัน
4. อสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ เช่น ร้านอาหาร, ปั๊มน้ำมัน, อาคารสำนักงาน, โรงแรม
5. เงินฝากในบัญชีธนาคาร ถ้ามีจำนวนเงินตามเงื่อนไขของผู้ให้บริการสินเชื่อก็ใช้เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันได้เช่นเดียวกัน
6. หลักทรัพย์ที่อยู่ในความต้องการของตลาด เช่น หุ้นสามัญ, หุ้นบุริมสิทธิ, หุ้นกู้, ตราสารหนี้
7. ยานพาหนะ เช่น รถยนต์ หรือรถมอเตอร์ไซค์ ถือเป็นสังหาริมทรัพย์ที่สามารถนำมาค้ำประกันได้
%20TPCC2.jpg)
.png){kind=logo}
